มาว่ากันต่อด้วยเรื่องขอวีซ่านะคะ เราจะขอยกประเด็นเรื่องความรู้ภาษาเยอรมันขั้นพื้นฐานขึ้นมาพูดก่อนแล้วกันนะคะ เพราะเราคิดว่าค่อนข้างสำคัญอยู่เหมือนกัน ในเวบไซต์ของสถานทูตระบุว่า “คนที่จะมาเป็นออแพร์ควรมีความรู้ภาษาเยอรมันในระดับ A1 ตามกรอบอ้างอิงร่วมของยุโรปว่าด้วยมาตรฐานภาษาต่างประเทศหรือ GER (Gemeinsamer Europäischer Referenzrahmen) และ สถานทูตฯ จะเป็นผู้ทดสอบความรู้ภาษาเยอรมันของเราเองตอนยื่นขอวีซ่า” แต่ไม่ได้ระบุว่า ต้องมีอะไรที่เป็นลายลักษณ์อักษรมายืนยันถ้าเรามีเอกสารที่ใช้ยืนยันได้ เช่น ใบประกาศ ใบรับรองต่างๆ ที่ระบุว่าเรามีความรู้ภาษาเบื้องต้นมายืนยันก็ควรจะแนบไปด้วย ถ้าใครไม่มี แต่ยังพอมีเวลา และสะดวกที่จะสมัครสอบ A1 ของเกอเธ่ก็ควรทำนะคะ (ไม่จำเป็นต้องเรียนที่เกอเธ่นะคะ สมัครสอบอย่างเดียวได้) หรือใครที่เรียนภาษาเยอรมันจากโรงเรียนสอนภาษาอื่นๆ ก็อาจจะให้โรงเรียนออกใบรับรองจำนวนชั่วโมงและระยะเวลาที่เข้าเรียนให้ ใครเคยเรียนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยก็ใช้ทรานสคริป ถ้าโชคดีอาจจะไม่โดนถาม หรือโดนไม่เยอะ
แล้วถ้าเราไม่มีสิ่งยืนยันล่ะ จะทำยังไง ไม่ต้องกังวลค่ะ เราเองก็ไม่มีใบอะไรสักอย่าง เพราะอยู่ต่างจังหวัด ไม่สะดวกที่จะมาสอบ เรียนภาษาเยอรมันเอง เลยไม่มีใบรับรองจากโรงเรียน เราก็เตรียมตัวดีๆ ไปให้สถานทูตสัมภาษณ์เอง ถ้าเราใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับโฮสต์ เราก็ชิงบอกไปก่อนก็ได้ว่า เรายังพูดภาษาเยอรมันไม่ได้เยอะ ตอนนี้ใช้ภาษาอังกฤษกับโฮสต์ แต่ก็กำลังเรียนภาษาเยอรมันอยู่นะ เราว่าสถานทูตเค้าไม่ได้ใจร้ายเลยนะ เค้าก็ไม่ได้ถามอะไรที่ยากมาก เราก็ใช้วิธีนี้นะคะ เจ้าหน้าที่ที่สัมภาษณ์ให้แนะนำตัวเป็นภาษาเยอรมันอย่างเดียว ง่ายมาก แต่เราไม่แน่ใจว่าเพราะจดหมายของโฮสต์ด้วยหรือเปล่า ที่เค้าไม่ถามเยอะ อย่างที่เคยเกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่าเราใช้ภาษาอังกฤษคุยกับโฮสต์ โฮสต์เราเขียนจดหมายขึ้นฉบับหนึ่ง(เราไม่ได้ขอให้เขียนนะคะ) แล้วส่งมาพร้อมกับสัญญา โฮสต์เขียนเป็นภาษาเยอรมันยืนยันว่า เราไม่มีปัญหาในการสื่อสารกัน ถึงแม้จะใช้ภาษาอังกฤษก็ตาม ซึ่งจดหมายอันนี้สถานทูตเก็บของเราไปด้วย ถ้าใครจะขอให้โฮสต์ทำให้ ก็อาจจะถามแบบขอความเห็นนะคะ ไม่ควรที่จะสั่งให้โฮสต์ทำให้เลย เพราะมันไม่ใช่สิ่งจำเป็นเลย มันจะเป็นการรบกวนเกินไป)
เอกสาร/หลักฐานอื่นๆ ที่ใช้จำเป็นต้องใช้ประกอบการยื่นคำร้องขอวีซ่า ก็จะมี
– พาสปอร์ต (หรือหนังสือเดินทาง) อย่าลืมเช็คอายุการใช้งานด้วยนะคะ พร้อมกับถ่ายสำเนาหน้าที่มีข้อมูลส่วนตัว 2 ชุด ในเวบของสถานทูตบอกว่า ในบางกรณีอาจต้องใช้หนังสือเดินทางฉบับเก่า เพราะฉะนั้นใครที่เคยมีพาสปร์ตมาแล้ว ก็เอาเล่มเก่ามาด้วยนะคะ
– รูปถ่ายไบโอเมตริก2 ใบ รายละเอียด และตัวอย่างของรูปถ่าย อ่านได้ในไฟล์ pdf นี้นะคะอ่านให้ละเอียดนะคะ แล้วชี้แจงกับร้านถ่ายรูปดีๆ เราเคยพลาดมาแล้ว เพราะร้านถ่ายรูปทำได้ไม่มาตรฐาน เราเองก็ไม่ได้อ่านละเอียด แค่ไปร้านถ่ายรูปแล้วบอกว่าถ่ายรูปทำวีซ่าเยอรมัน เค้าก็จัดการให้เลย แต่พอมาเทียบกับตัวอย่างของสถานทูตแล้วมันไม่ได้ คือมิลลิเมตรต้องเป๊ะ แล้วฉากหลังสะท้อนเพราะใช้สีขาว เลยต้องไปถ่ายใหม่ พร้อมกับถือรายละเอียดจากสถานทูตที่ปรินต์ออกมาไปร้านถ่ายรูปด้วย โชคดีที่เราเช็คก่อน แล้วถ่ายก่อนวันขอวีซ่า เลยมีเวลาแก้ไขได้ เพราะฉะนั้นอย่าประมาทนะคะ สถานที่ราชการในเยอรมนีค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ค่ะ ทำให้ถูกต้องแต่แรกดีที่สุด
– แบบฟอร์มคำร้องสำหรับวีซ่า (National Visa) ที่กรอกข้อความให้ครบถ้วน 2 ชุด ต้องตอบคำถามทุกข้อ กรอกที่อยู่ อีเมล์และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ และลงลายเซ็นที่หน้า 4 ของคำร้อง แบบฟอร์มโหลดได้จากเวบไซต์ของสถานทูตเลยนะคะ อย่าใช้ผิดฟอร์มนะคะ แบบฟอร์มเพื่อขอ National Visa นะคะ ไม่ใช่ แบบฟอร์มสำหรับวีซ่าเชงเกน ดูดีๆ ก่อนโหลดนะคะ ดาวน์โหลดแบบฟอร์มคำร้องสำหรับวีซ่า
– สัญญาการทำงาน กับครอบครัวเยอรมัน ที่จะไปพักอาศัยและทำงานด้วย ซึ่งมีบุตรเป็นเด็กเล็กและใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาแม่ ในสัญญาต้องระบุสิทธิและหน้าที่โดยละเอียด (เช่น เงินเดือนขั้นต่ำสุด 260 ยูโร สิทธิในการหยุดพักร้อน 2 วันต่อเดือน เวลาทำงานไม่เกิน 30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์/6 ชั่วโมงต่อวัน ประกันสุขภาพและสิทธิเข้าชั้นเรียนภาษา) อ่านสัญญาก่อนเซนต์นะคะ เพื่อเป็นการประหยัดเวลา ควรจะขอโฮสต์ดูสัญญาก่อน เผื่อเราอยากแก้ไขอะไร (อ่านจะผ่านอีเมล์ หรือแฟกซ์ เอาตามที่สะดวก) ถ้าพอใจในสัญญาทั้งสองฝ่ายแล้วค่อยให้โฮสต์ส่งสัญญาตัวจริงมาให้ จะได้ไม่เสียเวลารอสัญญาใหม่
และสุดท้าย ค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่า อันนี้เราต้องอภัยไว้ ณ ที่นี้เลยนะคะ คือเราไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน เราเองก็ลืมไปแล้วว่าจ่ายเท่าไหร่ หาข้อมูลไม่เจอด้วย แต่น่าจะอยู่ระหว่าง 50-60 ยูโรโดยประมาณ(มั้ง) อาจจะถูกกว่านี้ หรือแพงกว่านี้ เราไม่แน่ใจจริงๆ แต่ที่แน่ๆ เป็นเลขสองหลักค่ะ สถานทูตจะกำหนดค่าธรรมเนียมเป็นสกุลเงินยูโร แล้วเปลี่ยนเป็นบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนวันต่อวัน นั่นหมายถึงว่าค่าทำวีซ่าที่คิดเป็นบาทอาจจะไม่เท่ากันในแต่ละวัน
แล้วก็เอกสารทุกอย่างอย่าลืมถ่ายสำเนาสองชุดไปด้วยนะคะ ถ้าไม่ครบต้องถ่ายเอกสารเพิ่มในสถานทูต แพงค่ะ เตรียมทุกอย่างให้ครบไว้ก่อนดีที่สุด มันแสดงถึงความพร้อมของเราด้วยค่ะ
ข้อมูลทุกอย่างอ้างอิงจาก เวบไซต์ของสถานทูตและประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ
July 14, 2016 at 11:40 am
สวัสดีคะ
ขอบคุณที่แชร์ข้อมูลไว้มากเลยนะคะ
เป็นประโยชน์มาก ๆ เลย
แต่อยากถามเรื่องหนึ่งนะคะ ขอสัมภาษณ์วีซ่า เราสามารถนัดวันก่อนแล้วส่งเอกสาร หรือว่าส่งเอกสารก่อนแล้วนัดวันสัมภาษณ์นะคะ
July 14, 2016 at 8:43 pm
หมายถึงส่งเอกสารให้โฮสต์เหรอคะ หรือว่าส่งเอกสารอะไร ไปที่ไหน
ถ้าเป็นอย่างที่พี่เข้าใจ ก็คือเรานัดวันสัมภาษณ์ก่อนเอกสารครบได้นะคะ ถ้าแน่ใจว่า ถึงวันสัมภาษณ์แล้วเอกสารจะครบ
ลองกะดู แบบเผื่อเหลือเผื่อขาดนิดหน่อย คือถ้ารอจนเอกสารครบ อาจจะต้องรอคิวสัมภาษณ์นานอะค่ะ
ถ้าไม่ใช่ตามที่พี่เข้าใจ รบกวนน้องขยายความอีกนิดนะคะ เดี๋ยวพี่ช่วยดูข้อมูลเพิ่มให้ค่ะ
August 20, 2016 at 6:54 pm
สวัสดีค่ะ
ข้อมูลเป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ
รบกวนถามอีกนิดนึงนะคะ ว่าเอกสารตัวที่เป็นสัญญาการทำงานอะคะ จำเป็นต้องใช้ตัวจริงมั้ยคะ ถ้าให้โฮสสแกนแล้วส่งอีเมล์แทนได้มั้ยคะ
อีกข้อนึงค่ะ ในตัวแบบฟอร์มที่เราต้องกรอกอะคะ ที่ถามว่าพาร์ทเนอร์ชื่ออะไร นี่หมายถึงถ้าเราแต่งานแล้วใช่มั้ยคะ แล้วถ้าไม่มีจำเป็นต้องเขียนอะไรมั้ยคะ หรือเว้นว่างไปเลย
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะคะ
รบกวนด้วยค่ะ
August 20, 2016 at 7:07 pm
คิดว่าน่าจะใช้ตัวจริงนะคะ แต่ก็ไม่แน่ใจ คือตอนพี่ขอวีซ่า เขาก็ดุตัวจริงนะคะ แต่ว่าเก็บไปเฉพาะตัวถ่ายเอกสาร แล้วก็คืนตัวจริงมา
ไม่แน่ใจจริงๆ ว่าใช้ตัวสแกนได้ไหม ไม่กล้าฟันธงอะค่ะ ลองถามสถานทูตดูอีกทีนะคะ แต่ส่งเอกสารทางไปรษณีย์ปกติก็ไม่ถึงสองสัปดาห์นะคะ ไม่แพงด้วย ลองถามโฮสต์ดู
ถ้าส่งของเอกชนก็เร็วกว่านั้น แต่แพง
แบบฟอร์มนี่ หมายถึง แบบฟอร์มขอวีซ่า หรือแบบฟอร์มสมัครออแพร์อะค่ะ พี่จำไม่ค่อยได้ มันนานมากแล้ว แต่เหมือนจะไม่ได้กรอกพาร์เนอนะคะ
ไม่แน่ใจว่าตอนั้นมีไหม แต่จำได้ว่า อะไรที่กรอกไม่ได้ พี่เขียนเครื่องหมายลบลงไปอะค่ะ ยังไงลองส่งฟอร์มมาทางเมล์ไหมคะ เดี๋ยวพี่ช่วยดูให้ ไม่ต้องส่งทั้งฟอร์มก้ได้
ถ่ายรูปส่วนที่สงสัยส่งมาก็ได้ค่ะ
August 21, 2016 at 8:34 am
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำตอบอีกครั้งนะคะ
พี่ตอบเร็วมากๆเลย
พอดีลองถามเพื่อนที่ตอนนี้เค้าอยู่ที่เยอรมัน
เพื่อนคงยุ่งอยู่อะคะ เลยไม่ได้ตอบหนูเลยอะคะ แต่เค้าก้อบอกว่าตอนเพื่อนขอวีซ่าเมื่อต้นปี เค้าก้อให้ทางโฮสสแกนมาให้นะคะ แบบฟอร์มที่ถามหมายถึงแบบฟอร์มที่ขอวีซ่าอะคะ มันมีแบบฟอร์มที่สมัครออร์แพร์ด้วยหรอคะ ถ้ารู้จักโฮสในเว็ปไซต์ออร์แพร์เวิล์ด
รบกวนขออีเมล์พี่ได้มั้ยคะ
หรือถ้าพี่สามารถตอบในอีเมล์หนูเลยก็ได้นะคะ Pornsurat.ld@gmail.com
ขอโทษที่ถามเยอะและรบกวนนะคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
December 2, 2016 at 3:17 pm
สวัสดีค่ะ พอดีมีคำถามรบกวนช่วยตอบหน่อยนะค่ะ พอดีหนูกำลังจะขอวีซ่าออแพร์เยอรมันค่ะ เคยเรียนภาษาเยอรมันA1 ที่ โรงเรียนสอนภาษาในมหาลัย stuttgart เขาออกใบรับรองมาให้แต่ว่าเรียนไม่ผ่านค่ะ (ขาดคะแนนไปอีกนิดนึง) ใช้ใบรับรองนี้ยืนตอนขอวีซ่าได้ไหมค่ะ หรือต้องไปสอบใหม่ที่เกอเธ่?
December 2, 2016 at 8:46 pm
คิดว่าน่าจะได้นะคะ(ความเห็นส่วนตัวนะคะ) แต่ถ้าสะดวก พี่ว่าสอบไว้ก็ดีนะคะ
ถ้าเคยไปมาแล้ว เจ้าหน้าที่อาจจะถามในส่วนนี้ด้วยนะคะ เตรียมคำตอบเผื่อไว้ด้วยก็ดีค่ะ
โชคดีนะคะ
December 3, 2017 at 5:28 pm
สวัสดีค่ะ หนูอยากหาข้อมูลไปออร์แพรเยอรมันนี โดยไม่ผ่านเอเจนซี่ค่ะ แต่หนูไม่ทราบว่าจะเริ่มจากตรงไหนค่ะ หนูไม่รู้ว่าเราต้องมีเอกสารอะไรก่อนจะไปหาโฮสต์ได้คะ ขอโทษที่รบกวนนะคะ หนูไม่ทราบจริงๆค่ะ
February 19, 2018 at 10:27 am
ขอโทษนะคะ ที่เพิ่งเห็นข้อความ ระบบมันไม่ส่งเข้าอีเมล์ให้ พี่เลยเพิ่งเห็นข้อความน้อง
ตอนนี้น้องไปหรือยังคะ หรือว่าเตรียมตัวถึงไหนแล้ว พี่ไม่แน่ใจว่าน้องทำไปถึงไหนแล้ว
เลยไม่รู้จะเริ่มต้นแนะนำยังไงอะค่ะ
ขอโทษอีกครั้งนะคะ
June 3, 2018 at 4:41 pm
สงัสดีค่ะ พอดีอยากถามเรื่องออแพร์ แต่ว่าอยากสอบถามแบบละเอียดมากๆ ถ้าพี่ว่างยังไงช่วยตอบแอดเมลกลับมาได้ไหมคะ
June 16, 2018 at 5:03 pm
ได้ค่ะ
June 17, 2018 at 2:54 pm
สวัสดีค่ะ พอดีอยากสอบถามเรื่องส่าถ้าโฮสแม่เป็นคนไทย แต่ถือสัญชาติเยอรมัน แล้วก็พูดภาษาไทยไม่ค่อยได้ พี่คิดว่าเวลาไปสัมภาษขอวีซ่ามันจะผ่านมั้ยอ่าค่ะ คืออยากรุ้ด้วยอ่าค่ะว่าเจ้าหน้าที่เค้าจะถามรายละเอียดเยอะขนาดไหน รบกวนหน่อยนะคะ ^^
June 20, 2018 at 5:53 am
อันนี้พี่ไม่ค่อยชัวร์นะคะ แต่คิดว่าถ้าเอกสารเราพร้อม เชื้อชาติไม่น่าจะเกี่ยวนะ
ส่วนเรื่องรายละเอียดตอนสัมภาษณ์นี่ เอาจริงๆ ก็แล้วแต่เจ้าหน้าที่ค่ะ บางคนก็โดนถามมาก ถามลึก บางคนก็แทบจะไม่โดนอะไรเลย
ตอนตอบก็ให้มีสติดีๆ ค่ะ อย่าลน ถ้าไม่เข้าใจคำถามให้ถามทวน ถ้าตอบไม่ได้ ให้บอกตรงๆ แล้วก็ให้มั่นใจในคำตอบนะคะ
โชคดีนะคะ